- คลังความรู้
- ชีวิตมา...กับชีวามิตร ที่แคนาดา
ชีวิตมา...กับชีวามิตร ที่แคนาดา
คุณภาพชีวิตชาว "Goldy Citizen จิ๊กกี๋ในหัวใจ” กับพี่รุ้ง คุณสายรุ้ง ใสแก้ว
เรื่องโดย ตาแป๋วมองโลก
เรารู้จักแคนาดาในฐานะประเทศที่น่าอยู่ เศรษฐกิจดี บ้านเมืองสวยงาม วันนี้ ตาแป๋วมองโลก จะชวนคุณมาพบกับคุณภาพชีวิตชาว“Goldy Citizen จิ๊กกี๋ในหัวใจ” กับ พี่รุ้ง คุณสายรุ้ง ใสแก้ว ที่คุณจะเซอร์ไพรส์ว่าเราพบความพอเพียงในประเทศที่เจริญทางโลก และงดงามทางธรรม โดยธรรมชาติ โดยผู้คน โดยน้ำใสใจจริงที่คุณจะชื่นใจไปด้วยกัน
คุณภาพชีวิต พอดี คือพอเพียง
พี่รุ้งเล่าให้ฟังว่า เมื่อแต่งงานกับสามีชาวแคนาดา ก็ย้ายมาตั้งรกรากอยู่ที่แวนคูเวอร์ประเทศแคนาดา มา 20 ปีแล้ว ชีวิตที่นี่เรียบง่าย สงบ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ (บางวันมีหมีแวะเวียนมาทักทายเยี่ยมบ้าน) เมื่อยังหนุ่มสาวก็ทำงานเต็มที่ เก็บหอมรอมริบ วางแผนการเงินอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้พอดีต่อชีวิตวัยเกษียณแบบที่ต้องการ
วันนี้พี่รุ้งและสามีไม่ได้ทำงานหนักเท่าสมัยหนุ่มสาวแล้ว ชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการเจ็บป่วย ยิ่งทำให้เห็นความหมายของชีวิต เห็นคุณค่าของการดูแลสุขภาพ การดูแลซึ่งกันและกัน ที่สำคัญชุมชนแข็งแรง พร้อมเกื้อกูลกันในทุกครัวเรือน แต่ละคนมีหัวใจจิตอาสา ที่หลอมรวมชุมชนให้ยิ่งมีคุณภาพชีวิต สิ่งที่พี่รุ้งสังเกตเห็นและกลายเป็นรากแก่นของเธอไปแล้วคือ ความพอดี พอเพียง
คนที่นี่จะไม่ให้ความสำคัญกับวัตถุสิ่งของ แบรนด์เนมใด ๆ ไม่วัดคุณค่าจากภายนอก ยิ่งประหยัด ยิ่งดูฉลาดใช้ชีวิต ให้คุณค่ากับการใช้ชีวิตที่มีคุณค่าภายใน เราอาจจะคุ้นเคยระบบช็อปก่อนผ่อนทีหลัง สารพัด 0% แต่พี่รุ้งบอกว่า “ถ้าใครอยากซื้อของแพง อย่างซื้อรถ ถ้าไม่มีตังค์เขาก็จะไม่ได้หยิบยืมเงินญาติหรือคนใกล้ชิดมาซื้อนะคะ ก็จะคิด ถ้าไม่มีเงินจะซื้อทำไมล่ะ”
คำถามง่าย ๆ เช่นนี้ เราเคยถามตัวเองบ้างไหมหนอ พี่รุ้งเล่าว่าเมื่อก่อนเธอเคยเพลิดเพลินกับการซื้อของ แต่ยิ่งวันยิ่งแปลกใจตัวเองกับความรู้สึก “ภูมิใจที่ปีนี้ยังไม่ได้ช้อปรองเท้าซักคู่เลย”
คนที่นี่ให้ความสำคัญกับการใช้เวลากับครอบครัว ทำกิจกรรมร่วมกันในชุมชน นิยมทำอาหารทานกันเอง เพราะการทานอาหารนอกบ้านจัดเป็นค่าใช้จ่ายสิ้นเปลือง เช่นเดียวกับการซ่อมแซมบ้าน ผู้ชายที่นี่จะเป็น Handy Man สารพัดช่าง เมื่อมีงานเลี้ยง ก็ทำอาหาร ทำเค้กง่าย ๆ มาทานด้วยกัน จนเข้าสู่วัย Goldy Citizen เมื่อต้องย้ายออกจากบ้านไปอยู่บ้านพักคนชรา ก็จะชวนเชิญญาติพี่น้อง มาเลือกสรรของใช้ในบ้าน เพื่อเป็นของขวัญที่มอบให้กันในวันที่ยังมีชีวิต และงานศพ ก็เป็นวันที่ได้แสดงความอาลัยต่อผู้จากไป พร้อมกับนำอาหารมาแบ่งปันกันทาน ช่วยงานเต็มที่ เจ้าภาพได้รับความอบอุ่นใจในยามยาก
ความกตัญญู คือการพึ่งตัวเอง
ตาแป๋วมองโลกถามถึงคุณธรรมความกตัญญู สำหรับฝรั่งเป็นอย่างไร พี่รุ้งเล่าว่า คนที่นี่มีแนวคิดของการเลี้ยงดูลูก ๆ ให้พึ่งพาตัวเองตั้งแต่เล็ก ตอนเด็ก ผู้ใหญ่จะร่วมกันดูแล ไปรับไปส่ง แข่งบอล เล่นกีฬา ฝากกันได้คาร์พูลระหว่างเพื่อนบ้าน ฝากปู่ย่าตายายช่วยดูแลได้ แต่พอจบมัธยม จะเริ่มคุยกันอย่างจริงจังว่า ลูกอยากใช้ชีวิตอย่างไร วันจบการศึกษา เด็ก ๆ จะประกาศเหมือนเป็น Manifesto ชีวิตเลยว่า หนทางข้างหน้าของเขามุ่งไปอย่างไร อายุ 18 ก็จะเริ่มออกไปใช้ชีวิตเอง บางคนก็หาเงินเรียนเอง บางคนพ่อแม่ยังซัพพอร์ต ครอบครัวจะประคองให้เด็ก ๆ เติบโตด้วยตัวเอง ดูแลด้านความคิด จิตใจไปพร้อม ๆ กับฝึกให้ช่วยเหลือตัวเอง รู้จักวางแผน จัดสรรศักยภาพของตัวเองให้เป็นประโยชน์ การไม่เป็นภาระของครอบครัว สำหรับเขานี่คือความกตัญญู เมื่อพ่อแม่แก่เฒ่าลง ลูกหลานก็คอยไปเยี่ยม และผู้สูงวัยก็จะดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี มีชุมชนละแวกบ้านคอยจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาวะด้านต่าง ๆ การพึ่งตัวเองที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก จนถึงปลายทางก็ยังเป็นชีวิตที่เลือกได้ อย่างมีคุณภาพ
การดูแลตัวเองอย่างแข็งแรงทั้งกายใจของผู้สูงวัย ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย เป็นธรรมดาของคนที่นี่ สำหรับพี่รุ้งเองนั้น เคยพาคุณพ่อมาอยู่ที่แคนาดาด้วย เพื่อดูแลท่านในช่วงหนึ่ง เธอได้พาคุณพ่อไปร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลัง เดินป่า ร่วมกิจกรรมในชุมชนต่าง ๆ คุณพ่อได้พบกับอีกรูปแบบชีวิตที่อิสระ สามารถดูแลตัวเองได้อย่างแฮปปี้ เป็นช่วงเวลามีค่าที่คุณพ่อได้สัมผัส ในวาระสุดท้ายท่านได้เขียนสมุดเบาใจ และจากไปด้วยพลังแห่งความสุข
สังคมจิตอาสา คือรั้วบ้านมั่นคง
ในชุมชนจะมีการรวมกลุ่มสังคมทุกวัย เพื่อร่วมกันดูแลกัน จัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อทุกคน มีงานรื่นเริงก็เป็นวันรวมพล ให้ทุกคนมาร่วมสนุกกัน มีงานออกร้าน เด็ก ๆ ได้แสดงความสามารถ แข่งกีฬา พ่อแม่ก็มาเชียร์เป็นกำลังใจ มีดนตรี โอเปร่า มีการแสดง มี Talk Show ออกร้านเครื่องดื่ม อาหาร ขนม ระวังในการขายเหล้าเบียร์อย่างเข้มงวด เก็บค่าเข้างาน 5 เหรียญเพื่อเป็นทุนในการจัดงานต่อไป คนที่มีฐานะดี จะบริจาคที่ดินให้เป็น Camp Ground สำหรับจัดงานในชุมชน มีจิตอาสาในทุกประเภทลงแรงตามความถนัด ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะอยากเห็นสังคมที่ดี
นอกจากงานออกร้านเพื่อรวมใจผู้คนแล้ว ในทุกฤดูกาล ยังมีกิจกรรมชมรมต่าง ๆ เช่น กิจกรรมเดินป่า วิ่ง จักรยาน หน้าหนาวจะมีกิจกรรมในร่ม โบว์ลิ่ง เคิร์ลลิ่ง สกี กอล์ฟ ราคามิตรภาพ ผู้สูงวัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งก็จะมาแบ่งปันความรู้ทุกสัปดาห์ เพื่อคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น นักกฎหมายให้คำปรึกษาฟรี กลุ่มนักดนตรีผู้สูงอายุที่วนเวียนไปเล่นดนตรีให้ฟังฟรีตามบ้าน กลุ่มจิตอาสาที่ดูแลแม่เลี้ยงเดี่ยว วัยรุ่นที่มีปัญหา ทหารผ่านศึกก็เป็นจิตอาสาทำอาหารให้คนไร้บ้าน สำหรับการแบ่งปันนั้นเป็นเรื่องธรรมดา ที่จะแบ่งปันอาหารที่บ้านให้กับบ้านอื่น อาหารบางอย่างซื้อมาแล้วไม่ชอบ ไม่ถูกใจ ก็ปันให้คนอื่นที่เขาอาจชอบ คิดง่าย ๆ ว่า แบ่งปันอะไรได้ ก็แบ่งปัน ทำอะไรเพื่อใครได้ ก็ทำ เป็นความปลอดภัย มั่นคง และจริงใจต่อกัน แทนรั้วสูงที่แบ่งแยกคนเราจากกันและกัน
วิสัยทัศน์คือใส่ใจ
เมื่อพี่รุ้งมาถึงประเทศแคนาดาใหม่ ๆ ได้พบการปลูกฝังพลเมืองของประเทศนี้ ที่สอนให้รู้จักความเสมอภาค ไม่เหยียดผิว สุภาพอ่อนโยนต่อกัน ให้ความรู้ สอนเรื่องกฎหมาย ผู้นำชุมชนจะดูแลประชาชนอย่างลงลึกในรายละเอียดทุกด้าน บางพื้นที่จะกำหนดให้เป็น Green Area ไม่สามารถสร้างห้างร้านใด ๆ เพื่อกันไว้เป็นพื้นที่ธรรมชาติ บางช่วงจะมีกำหนดห้ามมีโฮมสเตย์ เพราะจะทำให้บ้านเช่าหันมาทำโฮมสเตย์จนคนในพื้นที่ไม่มีบ้านให้เช่า ใส่ใจแม้กระทั่งนกเป็ดน้ำ ที่จะอพยพมาทุกต้นปี ผู้ว่าการเมืองก็จะออกกฎห้ามพาสุนัขมาเดินชายหาดในช่วงมีนาคม ถึงเมษายน
คุณภาพชีวิตชราชน
ชาว Goldy Citizen เมื่อเข้าสู่วัยชรา เป็นผู้ใหญ่ที่ดูแลสุขภาพตัวเองอย่างดี ช่วยเหลือตัวเองได้ เป็นปกติที่จะเห็นคนแก่ช่วยเหลือตัวเอง ทำสวน ขับรถไปจนถึงอายุ 95 บางท่านเมื่อดูแลตัวเองไม่ไหวแล้วก็เลือกอยู่สถานบริบาลผู้สูงอายุ บางท่านก็ย้ายไปอยู่ในละแวกบ้านเพื่อนผู้สูงอายุด้วยกัน แล้วดูแลกัน ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบ Palliative Care เป็นเรื่องที่เข้าใจกันอย่างแพร่หลาย มีการคุยกับผู้ป่วยและญาติให้เข้าใจถึงทางเลือก เมื่อเสียชีวิตก็จะมีการเลือกโถบรรจุอัฐิ โดยไม่ต้องนำร่างกลับมาที่บ้าน มีการประกาศข่าวผู้เสียชีวิตทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น จัดงานศพที่บ้านง่าย ๆ รวมตัวกันมาแสดงความรักและอาลัย พร้อมกับนำอาหารมาคนละอย่างแบบ Pot Luck เป็นความเรียบง่ายจากต้นจนอวสานที่สงบงาม
คุณภาพชีวิตสูงล้ำ กับสวัสดิการชั้นเลิศนั้นมาพร้อมกับการจ่ายภาษีสูง ค่าครองชีพสูงมาก พี่รุ้งบอกว่าถ้าวางแผนชีวิตดี ๆ ขยัน ไม่ประมาทสร้างหนี้ ก็มีชีวิตที่ต้องการอย่างเลือกได้ในทุกช่วงวัย ดูแลตัวเอง เลือกทานอาหารมีประโยชน์ ออกกำลังกาย (โรงพยาบาลที่นี่จึงไม่ค่อยมีคนไข้) ทุกก้าวของเรากำลังเข้าสู่วัยปลายกันทุกคน เมื่อได้เห็นชีวิตที่มีความหมาย ไม่ว่าจะอยู่แห่งใด ก็เป็นพลังให้เราใช้ชีวิตอย่างรู้คุณค่าเช่นกันนะคะ
ขอขอบพระคุณพี่รุ้ง คุณสายรุ้ง ใสแก้ว คนไทยในแคนาดา ที่แบ่งปันชีวิตงามในต่างแดนให้เราได้ชื่นชมและอิ่มใจด้วยนะคะ
